top of page

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายให้ผลดีต่อร่างกายหลายประการ ทำให้อารมณ์ดี ร่างกายแข็งแรง หลับสบายขึ้น ผลดีที่ได้รับมีดังนี้

  • ปอดแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกายทำให้ปอดรับออกซิเจนและขับ carbodioxide ออกจากปอด

  • การออกกำลังกายจะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

  • การออกกำลังกายจะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

  • ลดระดับไขมัน Cholesterol

  • ลดความดันโลหิต

  • การออกกำลังกายจะป้องกันโรคเบาหวาน และ การควบคุมโรคเบาหวานดีขึ้น การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อใช้น้ำตาลในกระแสเลือด ทำให้น้ำตาลในเลืดลดลง

  • การออกกำลังกายทำให้น้ำหนักลดลง จะลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

  • การออกกำลังกายทำให้กระดูกแข็งแรง ลอดภาวะกระดูกพรุน

  • การออกกำลังกายจะป้องกันมะเร็ง ลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นของเสียถูกขับออก

  • การออกกำลังกายทำให้อารมณ์ดีขึ้นเนื่องการหลั่งของ endorphin และ serotonin ในสมอง

  • ลดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เนื่องจากออกกำลังกายจะลด LDL Cholesterol ซึ่งไขมันนี้จะเกาะที่ผนังหลอดลเลือดทำให้หลอดเลือดตีบ

  • หัวใจแข็งแรงขึ้นทำให้หัวใจเต้นช้าลง หัวใจทำงานน้อยลง

ขณะป่วยควรออกกำลังกายหรือไม่

ขณะเจ็บป่วยไม่ควรจะออกกำลังกายเพราะจะทำให้โรคเป็นมากขึ้น ควรจะพักจนอาการดีขึ้น หากพักเกินสองสัปดาห์เวลาเริ่มออกกำลังกายควรจะเริ่มเบาๆก่อน และหากท่านเป็นโรคเรื้อรังควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย

จริงหรือไม่ที่การออกกำลังกายโดยการเดินดีพอพอกับการวิ่ง

การเริ่มต้นออกกำลังควรใช้วิธีเดิน เนื่องจากจะไม่เหนื่อยมาก ปวดข้อไม่มาก และลดน้ำหนักได้ ส่วนการวิ่งจะเป็นการออกกำลังที่คุณเตรียมร่างกายไว้พร้อม เพราะการวิ่งจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ทำให้เหนื่อย มีการปวดข้อ ดังนั้นการออกกำลังโดยการเดินเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลัง คนอ้วน คนที่มีโรคประจำตัว แต่สำหรับการวิ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีโรค และต้องการความฟิต

คนท้องควรจะออกกำลังหรือไม่

คนท้องควรออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ออกกำลังกายแบบเบาๆโดยการเดิน ไม่ควรจะวิ่ง ไม่ควรยกของหนัก รายละเอียดอ่าน การออกกำลังในคนท้อง

จะรู้ได้อย่างไรว่าออกกำลังมากไป

ท่านสามารถสังเกตขณะออกกำลังกายว่ามากไปหรือไม่ โดยสังเกตอาการดังต่อไปนี้

- หัวใจเต้นเร็วมากจนรู้สึกเหนื่อย
- หายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค
- เหนื่อยจนเป็นลม
- มีอาการปวดข้อหลังจากการออกกำลังกาย
- หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดการออกกำลังกายสองวัน และให้ลดระดับการออกกำลังกาย

การออกกำลังแบบไหนจึงจะป้องกันโรคหัวใจ

การออกกกำลังกายแบบ aerobic จะทำให้หัวใจแข็งแรงและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น วิธีออกกำลังกายเพื่อให้ได้ aerobic มีได้หลายวิธีเช่น

การขึ้นบันได

การออกกำลังโดยการขึ้นบันได ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีต ปัจจุบันได้มีการทำเครื่องมือ เลียนแบบการขึ้นบันได เพื่อสำหรับออกกำลังกายในร่ม และได้รับความนิยมในสถาน fittness ทั่วไป การออกกำลังโดยใช้เครื่องมือนี้เป็นการออกกำลังแบบ aerobic โดยใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของขา เครื่องมือนี้สามารถปรับแรงต้าน ตามความแข็งแรงของท่าน

การว่ายน้ำ

การว่ายน้ำได้รับความนิยมจากประชาชน แต่ยังไม่แพร่หลาย เนื่องจากขาดแคลนสระว่ายน้ำ การว่ายน้ำหรือออกกำลังในน้ำ นอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตด้วย และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังบนบก เช่นผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมเป็นต้น

การเดิน

การเดินจะใช้พลังงานมากหรือน้อยขึ้นกับน้ำหนักของท่าน ความเร็วที่ท่านเดิน และการแกว่งแขนว่าแรงเพียงใด การเดินด้วยความเร็วประมาณ 6 กม./ชม.จะเผาผลาญพลังงานไปประมาณ 440กิโลแคลอรี ผู้ที่มีน้ำหนักมากจะเผาพลังงานมากกว่าผู้ที่น้ำหนักน้อย การวิ่งบนพื้นราบจะใช้พลังงานมากกว่าวิ่งบนสายพาน ดังนั้นหากต้องการเผาผลาญพลังงานควรจะวิ่งบนพื้นราบและทางชัน สมาคมโรคหัวใจของอเมริกาแนะนำว่าหากต้องการเผาผลาญพลังงานเพิ่มให้เพิ่มเวลาการออกกำลังกาย

การวิ่ง

ประโยชน์ของการวิ่งเหมือนกับการเดินซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพกาย หัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดความเครียด และยังมีผลป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจ การวิ่งสามารถทำได้คนเดียว ทำได้ทุกแห่งแต่จะต้องมีการฝึกฝน

การวิ่งจะเผาผลาญพลังงานมากกว่าการเดินประมาณว่าคนที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมจะใช้พลังงานไป 12.5 กิโลแคลอรีทุกหนึ่งนาทีที่วิ่ง คนที่นำหนักมากจะใช้พลังงานในการวิ่งมากกว่าน้ำหนักน้อย

การขี่จักรยาน

การขี่จักยานอยู่กับที่ได้รับความนิยมอย่างแพรหลาย เนื่องจากสามารถออกกำลังกายได้ทุกสภาพอากาศ และสามารถปรับระดับความฝืด หรือความต้านทานได้ตามสภาพของผู้ที่ออกกำลังกาย การออกกำลังแต่ละครั้งควรใช้เวลาในการออกประมาณ 40 นาที ในการฝึกช่วงแรก ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญ คอยแนะนำวิธีการขี่จักรยานอย่างถูกต้อง เครื่องที่ทันสมัยจะมีโปรแกรม เพื่อความบันเทิงเหมือนกับเราขี่ขึ้นเนินเขา หรือผ่านทุ่งหญ้า นอกจากนั้นยังสามารถตรวจวัดขีพขจรของผู้ที่ขี่จักรยาน

Please reload

Johanna-Quaas-3
120915-F-KX404-139
ozsquad-group-training
core_boot_camp_slendertone_blog
Woman-Running-on-Beach-700x467
49b57f9b4ae8af63a2be17db43b7
health (2)_2
happy_running_header
Healthier-Living
rsz_soc_ร่างกายกับการออกกำลังกายแบบมีแรงต้านอย่างเหมาะสม
1cb6a29af710a2679781a8307ac4faa7
20170522_health-exercise_8
มาออกกำลังกายกัน

ความสำคัญของการออกกำลังกาย

ร่างกายมนุษย์มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เพื่อความเจริญเติบโตและรักษาสภาพการทำงานที่ดีเอาไว้ การที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของสมรรถภาพทางกายหรือสุขภาพ แต่ยังเป็นสาเหตุของความผิดปกติของร่างกายและโรคร้ายหลายชนิดที่ป้องกันได้ ซึ่งเป็นโรคที่เป็นปัญหาทางการแพทย์ที่พบมากในปัจจุบัน ในทางการแพทย์ การออกกำลังกายอาจเปรียบได้กับยาสารพัดประโยชน์ เพราะใช้เป็นยาบำรุงเป็นยาป้องกันและเป็นยาบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพร่างกาย แต่การที่ได้ชื่อว่ายาแล้วไม่ว่าจะวิเศษเพียงไรก็จะต้องใช้ด้วยขนาดหรือปริมาณที่เหมาะสมกับคนแต่ละคน ในคนที่ใช้โดยไม่คำนึงถึงขนาดหรือปริมาณที่เหมาะสม นอกจากอาจไม่ได้ผลแล้วยังอาจเกิดโทษจากยาได้ด้วย การออกกำลังกายให้เกิดประโยชน์แก่สุขภาพคือ การจัดชนิดของความหนัก ความนาน และความบ่อยของการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเพศ วัย สภาพร่างกาย สภาพแวดล้อม และจุดประสงค์ของแต่ละคน

bottom of page